คดีปกครอง หมายถึง ข้อพิพาทระหว่างประชาชนกับหน่วยงานของรัฐ หรือระหว่างหน่วยงานของรัฐด้วยกันเอง อันเกิดจากการใช้อำนาจทางปกครอง หรือการกระทำทางปกครองของฝ่ายปกครองที่ ละเมิดสิทธิหรือก่อให้เกิดความเสียหายแก่เอกชน โดยคดีเหล่านี้อยู่ภายใต้การพิจารณาของ ศาลปกครอง ตาม พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542
ประเภทคดีปกครอง (ตามมาตรา 9 ของ พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองฯ)
(1) คดีพิพาทเกี่ยวกับการกระทำไม่ชอบด้วยกฎหมายของหน่วยงานรัฐ เช่น การออกคำสั่งย้าย การสั่งรื้อถอนอาคาร การออกระเบียบหรือกฎที่ละเมิดสิทธิประชาชน
(2) คดีพิพาทเกี่ยวกับการละเลยหน้าที่หรือล่าช้าเกินสมควร เช่น หน่วยงานรัฐไม่ออกใบอนุญาต หรือไม่ดำเนินการเรื่องร้องเรียนตามที่ควรต้องทำ
(3) คดีละเมิดหรือความรับผิดของรัฐจากการใช้อำนาจหรือจากการละเลยหน้าที่เช่น หน่วยงานก่อสร้างแล้วน้ำท่วมบ้านเรือน หรือใช้อำนาจเกินขอบเขตประชาชนเสียหาย
(4) คดีพิพาทเกี่ยวกับสัญญาทางปกครองเช่น สัญญาจ้างเหมาก่อสร้าง สัญญาสัมปทาน สัญญาซื้อขายกับรัฐ
(5) คดีที่กฎหมายกำหนดให้รัฐฟ้องประชาชนเช่น คดีที่หน่วยงานรัฐฟ้องขอให้ประชาชนรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างผิดกฎหมาย หรือรุกล้ำ
(6) คดีอื่นที่กฎหมายบัญญัติให้อยู่ในเขตอำนาจศาลปกครองเช่น คดีตาม พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสาร พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ ฯลฯ
เรื่องดังต่อไปนี้ไม่อยู่ในอำนาจศาลปกครอง
(1) การดำเนินการเกี่ยวกับวินัยทหาร
(2) การดำเนินการของคณะกรรมการตุลาการตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการ
(3) คดีที่อยู่ในอำนาจของศาลเยาวชนและครอบครัว ศาลแรงงาน ศาลภาษีอากรศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ ศาลล้มละลาย หรือศาลชำนัญพิเศษอื่น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3392/2563 คำสั่งที่ให้โอนคดีไปยังศาลปกครองอุดรธานีในคดีเดิมเป็นที่สุด ศาลปกครองสูงสุดไม่อาจยกเรื่องเขตอำนาจศาลขึ้นพิจารณาในคดีดังกล่าวได้อีก และคำสั่งซึ่งเป็นที่สุดในคดีเดิมไม่เกี่ยวกับคดีนี้ ประกอบกับศาลปกครองสูงสุดเห็นว่าโจทก์ฟ้องคดีเมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาการฟ้องคดีตาม พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ.2542 มาตรา 51 ทั้งการฟ้องคดีนี้ไม่เป็นประโยชน์แก่ส่วนรวมและไม่มีเหตุจำเป็นอื่นตามมาตรา 52 วรรคสอง และมีคำสั่งยืนตามคำสั่งของศาลปกครองอุดรธานีที่ไม่รับคำฟ้อง จึงเป็นกรณีที่ยังไม่ได้วินิจฉัยประเด็นข้อพิพาทตามฟ้องในคดีเดิม ฟ้องโจทก์คดีนี้จึงไม่เป็นฟ้องซ้ำ ตามกฎหมายและมาตราอื่นที่เกี่ยวข้อง ป.วิ.พ. ม. 148 ,พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ.2542 ม. 51, ม. 52 วรรคสอง ,พ.ร.บ.ว่าด้วยการวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล พ.ศ.2542 ม. 10
สรุปคำพิพากษาศาลฎีกาคือ เพิกถอนคำสั่งของศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ภาค 4 ที่ไม่รับฟ้อง ให้ศาลชั้นต้นรับคำฟ้องของโจทก์ไว้พิจารณา ค่าฤชาธรรมเนียมในศาลฎีกาให้ตกเป็นพับ
ข้อสังเขป แม้คดีนี้จะเกี่ยวกับเหตุเดียวกันกับคดีเดิม (การเรียกคืนเงินจำเลย) แต่ คดีเดิมศาลปกครองไม่รับฟ้องไว้พิจารณา เนื่องจากเห็นว่าโจทก์ยื่นฟ้องพ้นกำหนดเวลาตามพ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ.2542 มาตรา 51 ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การไม่รับฟ้องในคดีเดิม ไม่ใช่การ “วินิจฉัยข้อพิพาทตามฟ้อง” ดังนั้น การฟ้องใหม่ในคดีนี้จึงไม่เป็นฟ้องซ้ำ ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 148
หมายเหตุ การปรับใช้บทกฎหมายขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริงรายกรณีไป
อ้างอิง กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา ,ประมวลกฎหมาย และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง
ติอต่อ ⚖️
เพจ Facebook : บริษัทกฎหมายจักรพงษ กิมติน
เพจ Facebook : ทนายแพรว ดาวัลย์
www : chakphongklawfirm.com
📞 0949751151,0625432502