คดีประกันภัย คือคดีแพ่งประเภทหนึ่งที่เกิดจากข้อพิพาทระหว่าง ผู้เอาประกันภัย กับ ผู้รับประกันภัย (บริษัทประกัน) หรือบุคคลที่เกี่ยวข้องกับสัญญาประกันภัย ซึ่งเกี่ยวข้องกับสิทธิ หน้าที่ หรือความรับผิดตาม สัญญาประกันภัย ไม่ว่าจะเป็นประกันวินาศภัยหรือประกันชีวิต กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 3 ลักษณะ 20 ว่าด้วยเรื่อง “ประกันภัย” ซึ่งครอบคลุม มาตรา 861–938 กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับคดีประกันภัย: อาทิ พระราชบัญญัติประกันวินาศภัย พ.ศ. 2535 ,พระราชบัญญัติประกันชีวิต พ.ศ. 2535 ,พระราชบัญญัติสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย พ.ศ. 2550 ,ประกาศ คปภ. และระเบียบที่เกี่ยวข้อง ฯลฯ
ประกันภัย แบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักตามกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ได้แก่:
1.ประกันวินาศภัย (Non-life Insurance) ตาม ป.พ.พ. มาตรา 869–888 คือ การประกันภัยที่ไม่เกี่ยวกับชีวิตของบุคคล แต่คุ้มครองความเสียหายต่อทรัพย์สินหรือความรับผิดชอบต่อบุคคลภายนอกประเภทย่อย เช่น: ประกันอัคคีภัย (FireInsurance) อาทิ คุ้มครองบ้าน อาคาร ทรัพย์สินจากไฟไหม้ ประกันภัยรถยนต์ (Motor Insurance) อาทิ คุ้มครองรถ ความเสียหาย และบุคคลภายนอก ประกันภัยทางทะเลและขนส่งอาทิ คุ้มครองสินค้าและพาหนะขณะขนส่ง ประกันภัยเบ็ดเตล็ด อาทิ ประกันโจรกรรม ประกันอุบัติเหตุ ประกันภัยเดินทาง
2ประกันชีวิต (Life Insurance) ตาม ป.พ.พ. มาตรา 889–897 คือ การประกันภัยที่เกี่ยวข้องกับชีวิตหรือความตายของบุคคล และมีการจ่ายเงินให้ผู้รับผลประโยชน์เมื่อเกิดเหตุประเภทย่อย เช่น: ประกันชีวิตแบบมีกำหนดระยะเวลา อาทิ จ่ายเงินเมื่อผู้เอาประกันเสียชีวิตภายในระยะเวลาที่กำหนด ประกันชีวิตแบบตลอดชีพ อาทิ คุ้มครองตลอดชีพ จ่ายเมื่อเสียชีวิตทุกกรณี ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ อาทิ ผสมระหว่างประกันชีวิตกับการออมเงิน ประกันชีวิตควบการลงทุน (Unit-linked) อาทิ มีองค์ประกอบการลงทุนร่วมด้วย
ข้อควรระวัง เงื่อนไขและข้อยกเว้นในกรมธรรม์ ต้องอ่านและเข้าใจ ข้อยกเว้นความรับผิด ของบริษัทประกันภัยให้ชัดเจน เช่น ไม่คุ้มครองหากผู้ขับเมาเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด หรือขับรถโดยไม่มีใบขับขี่ หากเงื่อนไขระบุว่าต้องแจ้งเหตุภายในกี่วัน ต้องทำตาม มิฉะนั้นอาจถูกปฏิเสธการจ่ายค่าสินไหม และคดีเรียกร้องค่าสินไหมจากสัญญาประกันภัย มี อายุความ 2 ปี นับแต่วันที่เกิดเหตุ (ป.พ.พ.มาตรา 882)
ภาระการพิสูจน์ (Burden of Proof) ผู้เอาประกันต้องพิสูจน์ว่าเหตุที่เกิดขึ้นอยู่ในความคุ้มครองของสัญญา หากบริษัทประกันจะอ้างข้อยกเว้น ต้องเป็นฝ่ายพิสูจน์ว่ากรณีนั้นเข้าเงื่อนไขข้อยกเว้นจริง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 309/2562 สัญญาสละสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายซึ่งกันและกันตามกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ของสมาคมประกันวินาศภัย มีวัตถุประสงค์จำกัดขอบเขตการสละสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายซึ่งกันและกันในระหว่างผู้เข้าร่วมสัญญา ผู้เอาประกันภัย และบุคคลซึ่งต้องรับผิดต่อเหตุละเมิดเพียงเท่าจำนวนเงินเอาประกันภัยคุ้มครองความรับผิดต่อบุคคลภายนอกที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์ประกันภัยของผู้ร่วมสัญญาฝ่ายที่ต้อง รับผิดเท่านั้น หาใช่สละสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายทั้งหมดไม่ โจทก์ย่อมเข้ารับช่วงสิทธิจากผู้เอาประกันภัยฟ้องไล่เบี้ยเอาจากจำเลยที่ 1 ผู้กระทำละเมิดในค่าเสียหายส่วนเกินจากที่สละสิทธิเรียกร้องตามสัญญาได้ตาม ป.พ.พ. มาตรา 880 ตามกฎหมายและมาตราอื่นที่เกี่ยวข้องป.พ.พ. ม. 880
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4370/2566 กรณีที่จะเป็นเรื่องลาภมิควรได้ตาม ป.พ.พ. มาตรา 406 ต้องเป็นการที่บุคคลใดได้ทรัพย์สิ่งใดมาโดยปราศจากมูลอันจะอ้างกฎหมายได้ และเป็นทางให้บุคคลอีกคนหนึ่งเสียเปรียบ คดีนี้โจทก์ฟ้องเรียกให้จำเลยที่ 1 คืนเงินค่าบำเหน็จและเงินผลประโยชน์ที่รับไปแก่โจทก์เนื่องจากมีการยกเลิกกรมธรรม์และบอกล้างกรมธรรม์แก่ผู้เอาประกัน ซึ่งเงินค่าบำเหน็จและเงินผลประโยชน์ที่จำเลยที่ 1 ได้รับจากโจทก์ไปเป็นการรับไว้ในฐานะตัวแทนประกันชีวิตของโจทก์ตามสัญญาข้อตกลงแต่งตั้งตัวแทน จึงเป็นการรับเงินไว้โดยมีมูลอันจะอ้างกฎหมายได้ มิใช่เรื่องลาภมิควรได้ เมื่อปรากฏต่อมาว่าโจทก์ยกเลิกกรมธรรม์และบอกล้างกรมธรรม์แก่ผู้เอาประกันรายที่จำเลยที่ 1 และทีมงานชักชวนให้มาทำประกันชีวิตกับโจทก์ อันเป็นเหตุให้โจทก์ต้องคืนเบี้ยประกันให้ผู้เอาประกัน จำเลยที่ 1 จึงมีหน้าที่ต้องคืนเงินค่าบำเหน็จและเงินผลประโยชน์ที่ได้รับสำหรับผู้เอาประกันรายดังกล่าวแก่โจทก์ และโจทก์มีสิทธิเรียกเงินดังกล่าวคืนได้ตามเงื่อนไขและข้อตกลงในสัญญาข้อตกลงแต่งตั้งตัวแทน เมื่อโจทก์บอกกล่าวทวงถามเรียกเงินจำนวนดังกล่าวคืนจากจำเลยที่ 1 แล้วจำเลยที่ 1 เพิกเฉย โจทก์จึงใช้สิทธิฟ้องเรียกเงินคืนฐานผิดสัญญา มิใช่กรณีเรียกคืนฐานลาภมิควรได้ จะนำเอาอายุความตาม ป.พ.พ. มาตรา 419 มาใช้บังคับกับกรณีนี้ไม่ได้ และเมื่อการใช้สิทธิเรียกร้องของโจทก์ที่ขอให้จำเลยที่ 1 คืนเงินค่าบำเหน็จและเงินผลประโยชน์ที่ได้รับจากการเป็นตัวแทนประกันชีวิตกรณีโจทก์ยกเลิกกรมธรรม์และบอกล้างกรมธรรม์ไม่มีบทบัญญัติแห่งกฎหมายว่าด้วยอายุความบัญญัติไว้โดยเฉพาะ จึงต้องบังคับตาม ป.พ.พ. มาตรา 193/30 อายุความในคดีนี้จึงมีระยะเวลา 10 ปี นับแต่วันที่โจทก์อาจบังคับสิทธิเรียกร้องได้ตามสัญญา ตามกฎหมายและมาตราอื่นที่เกี่ยวข้อง ป.พ.พ. ม. 193/30, ม. 406, ม. 419
หมายเหตุ การปรับใช้บทกฎหมายขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริงรายกรณีไป
อ้างอิง กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา ,ประมวลกฎหมาย และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง
ติอต่อ ⚖️
เพจ Facebook : บริษัทกฎหมายจักรพงษ กิมติน
เพจ Facebook : ทนายแพรว ดาวัลย์
www : chakphongklawfirm.com
📞 0949751151,0625432502